ในตอนที่ 3 ของซีรี่ส์ก่อนทัวร์ 2015 ที่นำเสนอโดยเอออน เราจะพาไปทำความรู้จักกับชายคนที่มีส่วนยิ่งยวดในการสร้างประวัติศาสตร์ของสโมสรขึ้นมา และเรายังมีวิดีโอที่ เดนิส ลอว์ ได้พูดสรรเสริญถึงชายผู้เป็นบิดาแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนนี้เอาไว้ด้วย เขาก็คือ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ...
ในหน้าประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นจะมีคนที่มีความสำคัญกับสโมสรแตกต่างกันออกไป นับตั้งแต่ เจมส์ ดับเบิ้ลยู กิ๊บสัน ไปจนถึง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับเหล่าบรรดาดาวเตะในยุคของเขา คนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้ใครเลยก็คือ เซอร์ แมตต์ บัสบี้
เขาเคยผ่านประสบการณ์สมัยเป็นนักเตะกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูลมาแล้ว ชายชาวสก็อตผู้นี้ไปเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเวลานาน 6 ปี ช่วงสั้นๆ ก่อนคริสต์มาส 1944 บัสบี้ได้รับการทาบทามจากหัวหน้าแมวมองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือ หลุยส์ ร็อคค่า เขาถูกเสนอให้เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมปีศาจแดงหลังจากสงครามโลกจบลง
แม้ในตอนนั้นเขาจะมีอายุแค่ 35 ปี แมตต์ก็ดูไม่ยี่หระกับความท้าทายที่รอเขาอยู่ข้างหน้าที่แมนเชสเตอร์ เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมายทั้งสนามที่ถูกระเบิด รวมถึงสถานการณ์ด้านการเงินที่ไม่สู้ดีของทีม ในตอนแรกที่เขาเข้ามายังสโมสร เขายังไม่มีออฟฟิศส่วนตัวด้วยซ้ำ เขาต้องออกไปนั่งทำงานในที่ที่ห่างจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปไกลกว่าไมล์
อย่างไรก็ตาม บัสบี้ก็สามารถสร้างสโมสรขึ้นมาให้กลายเป็นยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ และยุโรปได้ ด้วยการร่วมมือกับผู้ช่วยผู้จัดการทีมผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่าง จิมมี่ เมอร์ฟี่ เขาได้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยสภาพการเงินที่ทำให้สโมสรไม่สามารถซื้อตัวผู้เล่นพรสวรรค์เข้ามาได้ เขาก็เลยสร้างนักเตะเหล่านั้นขึ้นมาเองซะเลย
ตลอดช่วงเวลาในการคุมทีมของบัสบี้ เขาได้สร้างนักเตะ และทีมสต๊าฟฟ์ที่สุดยอดขึ้นมามากมายด้วยการดูแลเป็นอย่างดี เดนิส ลอว์ ที่ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดมาตั้งแต่อายุ 21 ปี และกลายมาเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะตลอดกาลของสโมสร ได้กล่าวยกย่องผู้จัดการทีมคนนี้ว่าเป็นสาเหตุหลักเบื้องหลังความสำเร็จของเขา
"เขารู้ดีว่ามีนักเตะบางคนย้ายมาจากสก็อตแลนด์ ด้วยวัยที่ยังเด็ก พวกเขาก็มักจะคิดถึงครอบครัว เขาจะทำให้คุณรู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้าน และคุณจะไม่ประสบปัญหาโฮมซิคไปตลอดเวลา" อดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติสก็อตแลนด์กล่าว "เขามีบุคลิกเหมือนกับเป็นพ่อ เป็นพ่อสำหรับทุกๆ คน"
ยิ่งกาลเวลาผ่านไป สถานภาพของเขาก็ยิ่งชัดเจน นี่คือชายผู้ที่ปลุกสโมสรขึ้นมาถึง 2 ครั้ง จากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และโศกนาฏกรรมที่มิวนิค เขานำพาความสำเร็จหลั่งไหลเข้ามายังสโมสรไม่หยุดหย่อน หากจะกล่าวว่า เซอร์ แมตต์ บัสบี้ เป็นบิดาแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็คงจะไม่เกินไปนัก
