
ผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซีซั่นนี้เข้าขั้นหายนะวันสิ้นโลก เมื่อแพ้ไปแล้วถึง 12 เกม หลังจากสู้ศึกพรีเมียร์ลีกไปแค่ 27 นัด ติดแหง็กอยู่ที่ 14 ไม่ยอมไปไหนสักที แล้วล่าสุดยังมาโดนฟูแล่มเขี่ยตกรอบเอฟเอ คัพ ไปอีกรายการ ทำให้ประตูเข้าร่วมฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าปิดตายไปอีกบาน อันหมายถึงรายได้มหาศาลที่ต้องสูญเสียไป ซึ่งย่อมส่งผลโดยตรงถึงงบประมาณการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์อย่างเลี่ยงไม่ได้
ทีมปีศาจแดงต้องประสบกับปัญหาที่ประเดประดังกันเข้ามาไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนักเตะกำลังหลักบาดเจ็บยาว (อาหมัด ดิยาโล่, ลิซานโดร มาร์ติเนซ) พฤติกรรมและฟอร์มของนักเตะจนต้องปล่อยออกจากทีม (มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโทนี่) แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้นการยิงประตูได้น้อยนิด ซึ่งเป็นความรับผิดชอบเต็มๆ ของราสมุส ฮอยลุนด์
ในฐานะกองหน้าตัวเป้าที่มีค่าตัวกว่า 75 ล้านยูโร ฮอยลุนด์ย่อมถูกคาดหวังในการผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำให้ทีม แต่นับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องแบบปีศาจเมื่อปีก่อน ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์กทำไปได้ทั้งสิ้น 23 ประตู โดยปีนี้เขาเพิ่งทำประตูจากทุกรายการไปเพียง 7 ลูกเท่านั้น แถมรับบทมือปืนเป้าสะอาด 18 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว นอกจากนั้นผลงานอื่นในสนามก็ยังไม่เข้าตา ทั้งเก็บบอลแดนบนไม่ได้ แม้จะสูงใหญ่แต่ก็ไม่เคยได้เปรียบคู่แข่งในลูกกลางอากาศ แถมยังเคลื่อนที่เข้าทำประตูช้ากว่ากองหลังคู่แข่งเสมอ
ล่าสุดเบนนี่ แม็คคาร์ธี่ อดีตโค้ชกองหน้าในยุคเทน ฮาก ได้เปิดเผยว่าก่อนที่ทีมจะตัดสินใจลงเอยกับฮอยลุนด์ ยูไนเต็ดมีเป้าหมายในตำแหน่งศูนย์หน้าถึง 3 คน ส่งผลให้เสียงวิจารณ์ต่อตัวราสมุสกลับมาดังอีกครั้ง และยิ่งสร้างข้อกังขาว่าเขาคู่ควรกับทีมปีศาจแดงหรือไม่
มาดูกันว่ารายชื่อที่แม็คคาร์ธี่เอ่ยถึงมีใครกันบ้าง แล้วหลังจากที่ปีศาจแดงตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายไม่เดินดีลให้สำเร็จ แต่ละคนเดินหน้าสร้างผลงานบนสนามตามเส้นทางตัวเองอย่างไรบ้าง https://1winbet.kr/
1 แฮร์รี่ เคน
ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วสำหรับกัปตันทีมชาติอังกฤษผู้นี้ นี่คือเป้าหมายเลขหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย โดยนักเตะเองก็ต้องการแสวงหาความท้าทายใหม่เช่นกัน แถมเวลานั้นยูไนเต็ดก็มีภาษีดีกว่าคู่แข่งร่วมลีกทีมอื่น เคนคงไม่หักหลังแฟนบอลสเปอร์ด้วยการย้ายไปทีมร่วมเมืองอย่างเชลซี และอาร์เซน่อลอยู่แล้ว ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มีเออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์อยู่ทั้งคน ส่วนลิเวอร์พูลก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องลงทุนในตำแหน่งนี้ด้วย แต่สุดท้ายก็เป็นบาเยิร์น มิวนิคที่ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านยูโรคว้าดาวยิงเลือดผู้ดีไปร่วมทีม ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อดูจากผลงานที่เคนทำได้ 75 ประตู จาก 79 เกม2 ร็องดาล โคโล่ มูอานี่
มูอานี่ กลายเป็นนักเตะเนื้อหอมภายหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 กับทีมชาติฝรั่งเศส โดยสิ้นฤดูกาลนั้นเขายิงช่วยไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตไปถึง 23 ประตูจากทุกรายการ 46 เกม ศูนย์หน้าน้ำหอมสามารถเล่นได้ทั้งตรงกลางและตัวริมเส้น แถมมีจุดเด่นในเรื่องความแข็งแกร่งและการทำประตูจากลูกอากาศ ซึ่งตรงกับความต้องการของเทน ฮาก แต่เป็นปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ทุ่มเงินก้อนโตถึง 80 ล้านยูโร แลกกับตัวตายตัวแทนของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ น่าเสียดายที่ระบบของ PSG ไม่เข้ากับวิถีการเล่นของเจ้าตัวจนต้องย้ายแบบยืมตัวไปอยู่กับยูเวนตุสในปัจจุบัน โดยภายใน 2 ปีนี้มูอานี่ยิงรวมไปได้ 16 ประตู3 วิคเตอร์ โอซิมเฮน
โอซิมเฮนถือเป็นกำลังสำคัญช่วยให้นาโปลีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อาร์ 2022-23 โดยถล่มไปถึง 26 ประตูจาก 32 เกม นี่คือ 1 ในศูนย์หน้าที่ครบเครื่องทั้งความเร็วและการจบสกอร์คนหนึ่งของยุโรป จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีชื่อเขาอยู่ในแคนดิเดตของหลายสโมสร รวมถึงทีมปีศาจแดง แต่ด้วยการโก่งค่าตัวของนาโปลีที่ต้องการถึง 200 ล้านยูโร ทำให้การย้ายทีมไม่เกิดขึ้น ในฤดูกาลถัดมาแม้นาโปลีจะมีปัญหาจนต้องเปลี่ยนโค้ชเป็นว่าเล่นแต่โอซิมเฮนก็ยังยิงได้ต่อเนื่อง จนกระทั้งดาวซัลโวชาวไนจีเรียมีปัญหาส่วนตัวจากการถูกบูลลี่โดยฝ่ายโซเชี่ยลมีเดียของสโมสรเอง ถึงขั้นประกาศว่าจะไม่เล่นให้นาโปลีอีก แล้วก็เป็นกาลาตาซารายที่ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาล โดยระหว่าง 2 ซีซั่นนี้ โอซิมเฮนตะบันไปถึง 39 ประตูด้วยกันจะเห็นได้ว่าการตัดสินใจทั้ง 3 เคส สืบเนื่องมาจากค่าตัวมูลค่ามหาศาลเฉียด 100 ล้านยูโรทั้งสิ้น ซึ่งการเลือกลงทุนกับดาวรุ่งอนาคตไกลอย่างฮอยลุนด์ก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ แต่ในเมื่อทดลองมา 2 ปีแล้วยังไม่เวิร์คก็ควร "พอได้แล้ว" เช่นกัน ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการส่งชิโด โอบี เป็นตัวจริงในเกมต่อไปเสียเลย