แม้ซัมเมอร์ที่ผ่านมาป๋าเฟอร์กี้จะอิมพอร์ตห้องเครื่องเลือดบูชิโดมาเสริมแดนกลาง ในความหมายจอมทัพคนใหม่ ทั้งๆ ที่เพิ่งไปชุบตัวพัฒนาฝีเท้าในดินแดนเบียร์เพียงแค่สองปีเท่านั้น แต่ดันโชว์ฟอร์มเทพทั้งยิง และจ่าย จนพาทีมดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์เมเจอร์ไปสามรายการสำคัญๆ แต่นั่นคือการเสริมทีม ณ ปัจจุบันมากกว่า ในเมื่อ สองเสือเฒ่าอย่างสโคลส์ และกิ๊กส์ ใกล้หมดอายุการใช้งานในสนามเต็มที
ช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นสองนัดหลังจึงเห็นป๋าเน้นส่งคากาวะลงมากเป็นพิเศษ โดยมีนักเตะมากหน้าหลายตาสลับหมุนเวียนอยู่รอบกาย เพื่อให้คากาวะเคยชิน และปรับตัวกับทุกสถานการณ์ได้เร็ว จะได้พร้อมนำทัพผีทวงแชมป์กลับคืนมาโดยเร็ว แม้จะเป็นการเล่นเพียงเพื่อเตรียมความพร้อมเท่านั้น
นอกจากจะได้ยลฟอร์มของคากาวะกันไปแล้ว แฟนผีหลายคนคงได้เห็นฝีเท้าของอีกแข้งลูกกรอกคะนองนามว่า ไรอัน ทันนิคลิฟฟ์ อีกหนึ่งแข้งผีในทีมเยาวชน และสำรอง
ทันนิคลิฟฟ์ เกิดเมื่อ 30 ธันวาคม 1992 ย้ายมาร่วมทีมเยาวชนของแมนฯยูฯ ในปี 2009 เมื่ออายุได้ 16 ปี เป็นกำลังสำคัญในทีมเยาวชนแม้จะไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ยู18 ในซีซั่น 2008-09 (ดวลจุดโทษพ่ายปืนใหญ่) แต่ปีต่อมาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ยู18 และถ้วยเอฟเอ ยูธ คัพ ในซีซั่น 2009-10 ได้ ก่อนถูกปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับปีเตอร์โบโร่ในปี 2010-11 หลังกลับมาจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทันนิคลิฟฟ์มีส่วนสำคัญในการพาทีมแมนฯยูฯ สำรองคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
ปรีซีซั่นสามนัดที่เพิ่งผ่านพ้นไปทันนิคลิฟฟ์มีโอกาสลงสำรองในเกมส์กับอามาซาลู, อาแจ็กซ์ เคป ทาวน์ และเซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว แสดงให้เห็นถึงความขยัน ความกล้า สไตล์การเล่นทันนิคลิฟฟ์ดูๆ ไป คล้าย ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อยู่เหมือนกัน แต่สเต็ป ลีลา ท่าทาง ดันไปคล้าย พอล สโคลส์ เสียอย่างงั้น เห็นฟอร์มของเจ้าหนูคนนี้ ทำให้เข้าใจว่า ทำไม ป๋าถึงไม่ค่อยแคร์ที่จะเสีย พอล พ็อกบา สักเท่าไหร่
พรีเมียร์ ลีก ในซีซั่น 2012-13 ที่กำลังจะเปิดฉากอีกไม่ถึงเดือน บทบาทของทันนิคลิฟฟ์ อาจจะมีมากขึ้นโดยเฉพาะบอลถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ที่อาจจะเป็นตัวหลัก พร้อมกับเพื่อนๆ ที่เลื่อนขึ้นมาจากทีมสำรอง ส่วนในลีกจากการที่เฟล็ทเชอร์ยังป่วยเป็นเครื่องหมายคำถาม ว่าจะฟิตเต็มร้อย และหายขาดหรือไม่ ทันนิคลิฟฟ์อาจจะมีโอกาสเสียบแทนที่ว่างของเฟล็ทเชอร์ต่อไป หรือในอนาคตอาจเป็นตัวแทนอย่างถาวรก็เป็นไปได้ และตอนนี้คนที่เริ่มสั่นคลอนในตำแหน่ง คือ อันแดร์สัน หลังจากย้ายมาร่วมทีมแมนฯยูฯได้สี่ปีแล้ว พัฒนาการดูจะหายไปพร้อมกับอาการบาดเจ็บ แม้จะพอมีทีเด็ดในการจ่ายบอลแบบได้เสียหรือคิลเลอร์พาส แต่น้อยครั้งนักที่จะได้เห็น ยิ่งโอกาสเติมสกอร์จากแถวสองดูจะไร้ซึ่งความน่ากลัว แม้จะเพิ่งพังสกอร์ไปได้แล้วก็ตาม
โอกาสแจ้งเกิดของทันนิคลิฟฟ์ใกล้กำลังจะมาแล้ว อยู่ที่เจ้าตัวแล้วว่าจะคว้าโอกาสโชว์เพลงแข้งได้มากแค่ไหน ในซีซั่นนี้ ทั้งกิ๊กส์ และสโคลส์ จะอยู่ช่วยทีมเป็นปีสุดท้าย ซึ่งอาจรวมเฟล็ทเชอร์เข้าไปด้วยก็ได้ ป๋าเฟอร์กี้คงดันทันนิคลิฟฟ์ อย่างจริงจังกว่าเดิม แม้ทักษะ และความสามารถจะเป็นรองคากาวะรุ่นพี่ผู้มาใหม่อยู่เยอะพอสมควร แต่มิดฟิลด์สไตล์ปิดทองหลังพระยังสำคัญเสมอ
คอลัมน์หน้าจะกลับมาคุยถึงแข้งลูกกรอกคะนองอีกคน ที่ฉายฟอร์มดีในปรีซีซั่นที่ผ่านมา เจ้าหนู "เจสซี่ ลินการ์ด"